โรค
ข้อเข่าเสื่อมเป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ซึ่งเกิดขึ้นจากการที่กระดูกอ่อนผิวข้อที่เป็นเหมือนเบาะรองรับน้ำหนักในข้อได้สูญเสียคุณสมบัติและเกิดการยุบตัวและมีความยืดหยุ่นน้อยลง ด้วยเหตุนี้ กระดูกข้อต่อจึงเกิดการเสียดสีกันขณะเคลื่อนไหวจนเกิดการสึกกร่อน ผิวข้อบางลง ไม่เรียบ และอาจมีเสียงดังในข้อ รวมถึงมีอาการเจ็บปวดเมื่อใช้งานข้อเข่าหรือเมื่อเคลื่อนไหว ถ้าหากปล่อยไว้โดยไม่รักษาหรือได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ก็อาจเกิดอาการข้อเข่าอักเสบรุนแรงจนมีน้ำที่ด้อยคุณภาพมากขึ้นในข้อเข่า ทำให้เกิดอาการข้อเข่าเสื่อมได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ภาวะ
ข้อเข่าเสื่อมยังอาจส่งผลให้ข้อเข่าผิดรูปได้เนื่องจากข้อเข่าผ่านการใช้งานมาเป็นเวลานานหรือผ่านการใช้งานอย่างหนัก เช่น ผู้สูงอายุ นักกีฬาบางประเภท หรือผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุบริเวณข้อเข่า ซึ่งจะทำให้เข่าเสื่อมเร็วกว่าคนปกติได้ ซึ่งในการรักษาก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธีดังนี้
การรักษา
ข้อเข่าเสื่อม1. การปรับพฤติกรรมและการออกกำลังกาย
เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อต้นขาและกล้ามเนื้อรอบข้อเข่า เพราะกล้ามเนื้อที่แข็งแรงจะช่วยพยุงข้อเข่า และถ่ายเทน้ำหนักจากข้อเข่ามาที่กล้ามเนื้อได้ดี ทำให้ข้อเข่าไม่ต้องรับน้ำหนักมากจนเกินไป แนะนำให้ผู้สูงวัยออกกำลังกายประเภทที่มีแรงกระแทกต่อข้อเข่าน้อย เช่น ว่ายน้ำ การปั่นจักรยานอยู่กับที่ การเต้นแอโรบิกที่ไม่มีท่ากระโดด การเต้นแอโรบิกในน้ำ หรือการเดิน เป็นต้น
2. การรักษาด้วยการใช้ยา
วิธีนี้แพทย์จะพิจารณาให้ยาแก้ปวด ยาต้านการอักเสบ และ/หรือยาบำรุงข้อเข่าแก่ผู้ป่วย เช่น ยาพาราเซตามอล ,กลูโคซามีน ,ไดอะเซอรีน ยากลุ่มต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เป็นต้น เพื่อลดอาการปวดข้อเข่าที่รบกวนชีวิตประจำวันของผู้ป่วย อาจจะเป็นแบบเม็ด หรือแบบฉีดก็ได้ ทั้งนี้ อาจรวมไปถึงการฉีดคอร์ติโคสเตียรอยด์ในบางกรณีที่จำเป็น
3. การทำกายภาพบำบัด
เพื่อบรรเทาอาการปวดบริเวณข้อเข่า เช่น การทำอัลตราซาวด์ การใช้เลเซอร์รักษา การรักษาด้วยคลื่นสั้น การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า การประคบด้วยแผ่นร้อนและแผ่นเย็น รวมถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วยทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจรวมไปถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงและเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อรอบข้อเข่าด้วยเช่นกัน
4. การรักษาทางชีวภาพ หรือ Biological Therapy
ซึ่งเป็นเทคนิคทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาอาการผิดปกติของกระดูกอ่อนและน้ำเลี้ยงข้อเข่า โดยสามารถทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้
4.1) การฉีดน้ำเลี้ยงข้อเข่าเทียม ซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับเป็นสารหล่อชนิดหนึ่งเข้าไป เพื่อบรรเทาอาการปวดและลดอาการฝืดตึงของข้อเข่า โดยมุ่งเน้นรักษาผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม ด้วยการเพิ่มน้ำหล่อลื่นและกระตุ้นสารตั้งต้นผิวข้อเข่า เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อม และรักษาด้วยยาแล้วไม่หาย แต่ก็ยังไม่ได้อยู่ในระยะรุนแรงถึงขั้นต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อเข่าเทียม ในด้านผลการรักษา จะเห็นผลจากประสิทธิภาพจริงที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์ หรืออาจจะนานได้ถึง 6 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคเป็นรายๆ ไป แต่หากมีภาวะข้อเข่าเสื่อมมากๆ แล้วนั้น การรักษาอาจไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร
4.2) การฉีด Platelet Rich Plasma (PRP) หรือสารสกัดเกล็ดเลือด จากเลือดของผู้ป่วยเองที่มีความเข้มข้นของ growth factor หรือสารที่ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ช่วยให้บริเวณที่มีการบาดเจ็บดีขึ้น เป็นวิธีที่ได้ผลดี ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงต่ำ เนื่องจากเป็นสารสกัดจากเลือดของผู้ป่วยเอง เหมาะกับผู้ที่มีอาการข้อเข่าเสื่อม หรือมีการบาดเจ็บของเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบริเวณข้อเข่า
ทั้งนี้โรค
ข้อเข่าเสื่อมสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มมากขึ้น น้ำหนักตัวเกินกว่าเกณฑ์ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้น ทุกคนจึงควรหมั่นสังเกตอาการของตัวเอง หรือสมาชิกภายในครอบครัวว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมหรือไม่ เพื่อจะได้เข้ารับการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมที่ถูกวิธี และตรงจุดมากที่สุด
#ข้อเข่าเสื่อม