one punch man มังงะคนไม่ใช่น้อยคงงคุ้นเคยกับการอ่านการ์ตูนประเทศญี่ปุ่นหรือ "มังงะ" แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า "มังงะ" มีจุดกำหนด ที่มาที่ไปอย่างไร และก็ในเนื้อหานี้จะพาไปดู ประวัติ ภูมิหลังของ "มังงะ"
คำว่า"มังงะ" แปลตรงตัวว่าภาพตามอารมณ์ถูกใช้อย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรกหลังจากจิตรกรภาพแนวอุคิโยเอะ (ภาพพิมพ์แกะไม้สไตล์ญึ่ปุ่นที่นิยมในช่วงศตวรรษที่ 17-20)ชื่อโฮคุไซตีพิมพ์หนังสือชื่อโฮปะทุไซมังงะในคริสต์ศตวรรษที่ 19 อย่างไรก็แล้วแต่นักประวัติศาสตร์บางกลุ่มมีความคิดเห็นว่ามังงะอาจมีความเป็นมาเป็นเวลานานกว่านั้นโดยมีหลักฐานเป็นภาพ "จิกะ" (แปลตรงตัวว่า"ภาพตลกขบขัน") ซึ่งเป็นที่นิยมในศตวรรษที่ 12 มีลักษณะหลามยประการละม้ายกับมังงะในขณะนี้ อาทิเช่นการเน้นเรื่องราวรวมทั้งการใช้เส้นที่เรียบง่ายแต่ว่าเป็นระเบียบฯลฯ
มังงะปรับปรุงมาจากการการประสมประสานศิลป์การวาดภาพแบบอุคิโยเอะกับจิตรกรรมตะวันตกความพยายามของประเทศญี่ปุ่นที่จะปรับปรุงตนเองให้ทันกับมหาอำนาจตะวันตกในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ผลักดันให้ญี่ปุ่นนำเข้าวัฒนธรรมตะวันตกหลายๆแบบอย่างและก็การว่าจ้างศิลปินตะวันตกมาสอนนักแสดงญี่ปุ่นเกี่ยวกับส่วนประกอบพื้นฐานทางศิลป์เช่นเส้นทรงและสีซึ่งการวาดภาพแบบอุคิโยเอะไม่ให้ความใส่ใจเนื่องจากว่ารู้สึกว่าความรู้สึกโดยรวมของภาพสำคัญกว่าอย่างไรก็ตามมังงะที่เป็นที่รู้จักกันในตอนนี้เริ่มก่อตัวเป็นตัวเป็นตนในตอนหลังสงครามโลกครั้งที่สองจากที่รัฐบาลญึ่ปุ่นถูกประเทศสหรัฐอเมริกาบังคับให้เปิดเสรีภาพแก่สื่อมวลชน
ในศตวรรษที่21 คำว่ามังงะเปลี่ยนความหมายเดิมมาหมายถึงหนังสือการ์ตูนอย่างไรก็ดีคนญี่ปุ่นมักใช้คำนี้เรียกหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กส่วนหนังสือการ์ตูนทั่วไปใช้คำว่า コミック (คอมิกส์) ซึ่งเป็นคำทับศัพท์ของ comics ในภาษาอังกฤษซึ่งหากเป็นญี่ปุ่นส่วนในประเทศไทยการใช้คำว่ามังงะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากสักเท่าไรนัก แต่ก็เป็นที่รู้จักมากขี้นเรื่อยซึ่งปกติบ้านเราจะเรียกกันว่า "หนังสือการ์ตูนประเทศญี่ปุ่น" มากยิ่งกว่า
มังงะมีความสำคัญต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นรวมทั้งได้รับการยินยอมรับจากคนประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นวิจิตรศิลป์และวรรณกรรมรูปแบบหนึ่งทว่าในขณะนี้มังงะเริ่มถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มอนุรักษ์นิยมทั้งยังในญี่ปุ่นแล้วก็ต่างถิ่นอย่างมากมายว่ามีความร้ายแรงแล้วก็เนื้อหาทางเพศปะปนอยู่มากมายอย่างไรก็ดีประเทศญี่ปุ่นก็ยังไม่มีข้อบังคับจัดระบบมังงะเว้นแต่ข้อบังคับคลุมเครือฉบับหนึ่งที่กลาวทำนองว่า"ห้ามคนใดกันแน่จำหน่ายสื่อที่ตรงข้ามความดีเลิศของสังคมจนถึงเหลือเกิน" แค่นั้นนักวาดการ์ตูนในประเทศญี่ปุ่นก็เลยยังคงมีเสรีภาพที่จะเขียนมังงะที่มีรายละเอียดทุกแนวสำหรับผู้อ่านทุกกลุ่ม
มังงะแบ่งออกเป็น 5 ประเภทตามลักษณะของคนอ่านดังเช่นเด็กหนุ่มสาวหญิง (โชโจะ) เด็กหนุ่มสาวชาย (โชเน็น) หญิง (โจะเซ) รวมทั้งผู้ชาย (เซเน็น) โดยแต่ละประเภทจะมีหน้าปกแตกต่างกันและไม่ขายบนชั้นหนังสือเดียวกันทำให้นักอ่านทราบหมวดหมู่ของแต่ละชนิดอย่างเห็นได้ชัด
รูปในมังงะโดยมากจะเน้นย้ำเส้นมากกว่ารูปทรงและการให้แสงสว่างเงาการจัดช่องภาพจะไม่ตายตัวเสมือนการ์ตูนสี่ช่องหรือการ์ตูนช่องในหนังสือพิมพ์การอ่านมังงะจะอ่านจากขวาไปซ้ายตามแนวทางแต่งหนังสือแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นเป็นที่น่าสังเกตว่านักแสดงในมังงะมักจะดูเหมือนกับว่าชาวตะวันตกหรือไม่ก็มีความนัยน์ตาขนาดใหญ่ความใหญ่ของดวงตาเปลี่ยนมาเป็นจุดแข็งของมังงะและอนิเมะตั้งแต่สมัยปี 1960 เมือโอซามุเทซุกะคนเขียนเรื่องแอสโตรบอยซึ่งได้รับการสรรเสริญว่าเป็นพ่อของมังงะในปัจจุบันเริ่มวาดตาของผู้แสดงอย่างงั้นโดยเอาแบบมาจากตัวการ์ตูนของดิสนีย์อย่างไรก็ดีไม่ใช่ว่านักเขียนการ์ตูนทุกคนจะวาดตัวละครให้มีตาใหญ่เสมอไปมังงะนั้นจะถูกแยกจากการ์ตูนสไตล์คอมมิคอย่างกระจ่างเพราะเหตุว่าเป็น การเขียนโดยใช้เคล็ดลับเดียวกันกับการถ่ายทำภาพยนตร์ (cinematic style) โดยผู้เขียนจะกระทำการเขียนภาพระยะใกล้แล้วก็ระยะใกล้ชิด แปลงมุมมองและตัดต่อเนื้อหาเรื่องราวอย่างฉับไวโดยใช้เส้นสปีดช่วยในการนำสายตา
และก็อีกปัญหาอย่างหนึ่งของมังงะคือต้นฉบับมักเขียนและอ่านจากขวาไปซ้ายเป็นวัฒนธรรมการอ่านของชาวญี่ปุ่นเมื่อเอามาเผยแพร่ในประเทศอื่นก็เลยมีการเปลี่ยนรูปแบบเป็นอ่านจากซ้ายไปขวาซึ่งทำให้นักวาดการ์ตูนรวมถึงนักอ่านใครอีกหลายๆคนไม่พอใจ ด้วยเหตุว่าอาจมีผลกระทบกับเนื้อหา (อาทิเช่น การ์ตูนสืบสวน ที่จะต้องให้ความสำคัญกับ ขวา หรือ ซ้าย หรือในสมัยก่อน อ.ซึติดอยู่สะ โฮโจ ก็ไม่ยอมให้ ซาเอบะ เรียว ตัวเอกจากเรื่องซิตี้ฮันเตอร์ ถือปืนมือซ้าย จึงไม่ขาย ลิขสิทธ์ให้กับสถานที่พิมพ์ที่ทำการพลิกด้านการ์ตูนเด็ดขาด) ดังนั้นเดี๋ยวนี้สำนักพิมพ์หลายแห่งในต่างแดน (รวมทั้งประเทศไทย) จึงเริ่มตีพิมพ์มังงะให้อ่านจากขวาไปซ้ายตามต้นฉบับประเทศญี่ปุ่นโดยในขณะนี้มังงะที่เผยแพร่ในไทยกว่า 90 % เปลี่ยนเป็นแบบญี่ปุ่นหมดแล้ว เหลือแต่ซีรี่ส์ยาวที่ยังไม่จบบางเรื่อง และก็การ์ตูนญี่ปุ่นที่ต้นฉบับตีพิมพ์แบบซ้ายไปขวามาตั้งแต่ตอนแรก (เป็นต้นว่าการ์ตูนเรื่อง อลวนคนวิปลาสเกม ที่ต้นฉบับญี่ปุ่นเผยแพร่แบบซ้ายไปขวา)
สำหรับประเทศไทยมังงะเข้ามาในบ้านพวกเรายาวนานมากโดยเริ่มจากยุคการ์ตูนเล่มใหญ่ การ์ตูนวีรบุรุษทีวี มาจนกระทั่งสมัยโดราเอม่อนบูมที่มีตีพิมพ์ในหน้าหนังสือพิมพ์ แม้กระนั้นเริ่มมรการซื้อมังงะลิขสิทธิ์ตีพิมพ์อย่างเป็นทางการในตอนปี 2536-2538 (ก่อนนั้นก็มีข่าวสารว่ามีการ์ตูนบางเรื่องที่มีลิขสิทธิ์ แต่ว่าไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน) ด้วยเนื้อหาที่เข้มข้นแปลกใหม่ทำให้มังงะครอบครองใจชาวไทยโดยยิ่งไปกว่านั้นเด็กๆได้อย่างอยู่มือทำให้ปัจจุบันนี้มีบริษัทผลิตมังงะใหญ่น้อยเข้ามาชิงชัยในตลาดเพิ่มขึ้น
มังงะที่คนประเทศไทยส่วนใหญ่(ย้ำว่าจำนวนมาก)รู้จักดังเช่นว่า โดราเอมอน,ดราก้อน.,เซนต์เซคุณย่า,ยอดสายลับจิ๋วโคนัน,ซึบาสะอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งส่วนมากมังงะยอดฮิตในบ้านเราจะมีความสัมพันธ์กับการ์ตูนอนิเมที่ฉายทางโทรทัศน์บ้านเรา เพราะเหตุว่าเป็นที่แน่ๆว่า มังงะเรื่องที่บรรลุผลสำเร็จ ก็จะถูกเอามาผลิตเป็นอนิเมฉายทางโทรทัศน์ ซึ่งการ์ตูนอนิเมทีวีจะช่วยโฆษณาให้การ์ตูนมังงะหัวข้อนั้น ต่อให้มีมังงะเข้ามาในประเทศเรานับพันนับหมื่นเรื่อง แต่ว่าเวลาพวกเราเอ๋ยถึง "การ์ตูนญี่ปุ่น" โดราเอม่อน,ดราก้อน.,โคนัน ชอบเป็นชื่อแรกๆที่เราระลึกถึงเสมอ
รวมทั้งนี้ก็คือ ประวัติ ที่มาที่ไปของ "มังงะ" ถ้าหากจะว่าไปแล้ว ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร แต่ว่า "มังงะ" ก็ยังคงชนะใจบุคคลทุกวัยอยู่ เนื่องจากว่าคงเป็นเพราะว่าความสนุกสนานร่าเริงแทรกวัฒนธรรมด้วย ก็เป็นไปได้